ทำความรู้จักเห็ดหลินจือ กับการรักษาโรคเบาหวาน

เมื่ออายุมากขึ้นภาวะการเกิดโรคต่างๆก็เพิ่มมากขึ้น โรคเบาหวานก็เช่นกันหากปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือการมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ โอกาสที่จะเกิดโรคเบาหวานก็มีมากขึ้นเช่นกัน การเกิดโรคเบาหวานเกิดจากน้ำตาลในเลือดที่สูงผิดปกติ จึงส่งผลให้กระบวนการสร้างอินซูลินทำงานผิดปกติ แต่เห็ดหลินจือสามารถช่วยให้กระบวนการสร้างอินซูลิน กลับมาเป็นปกติได้เรามาดูว่าเห็ดหลินจือจริงแล้วรักษาโรคเบาหวานได้อย่างไร
โรคเบาหวาน คือ การทำงานที่ผิดปกติของร่างกายจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคต่างๆได้ง่าย และเมื่อตับอ่อนมีการทำงานผิดปกติร่างกายก็จะไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้กระบวนการาร้างอินซูลินบกพร่อง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างเต็มที่ โรคเบาหวานส่วนใหญ่แล้วสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคมาจากพันธุกรรม รองลงมาคือพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ คนที่เป็นโรคเบาหวานเมื่อเป็นแล้วจะไม่มีโอกาสหายเป็นปกติคือ จะเป็นตลอดชีวิตไม่มีทางรักษาให้หาย
โรคเบาหวานเป็นอีกโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมาอย่างมากมาย เมื่อเกิดอาการกำเริบร่างกายจะอ่อนแอลง ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น ร่างกายก็จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ง่ายขึ้นด้วย ที่สำคัญอวัยวะส่วนต่างๆภายในก็จะอ่อนแอลงด้วย ได้แก่ ตา ไต หัวใจ ระบบประสาท รวมถึงความดันด้วย ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานจึงจำเป็นมากที่จะต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีเป็นพิเศษ ด้วยการหลีกเลี่ยงการทานอาหารหวาน แอลกอฮอร์ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปริมาณมากๆ และควรเน้นทานผักผลไม้สีเขียว
เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานการควบคุมปริมาณน้ำตาลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และไม่ควรมองข้ามหรือละเลยเด็ดขาด และสิ่งสำคัญในการควบคุมปริมาณน้ำตาลคือการทานอาหาร ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานจะตามใจปากไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากเมื่อไหร่ที่ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ที่กำหนด ผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆและโอกาสที่เบาหวานจะลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆก็มีมากด้วย จึงสรุปได้ว่าการทานเห็ดหลินจือสามารถควบคุมเบาหวานได้ในระดับที่ดีเยี่ยม และไม่ส่งผลกระทบข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแน่นอน
เห็ดหลินจือกับงานวิจัยในการนำมารักษาโรคเบาหวาน
จากการวิจัยทำให้พบว่า จากการนำเห็ดหลินจือมาใช้ในคน เห็ดหลินจือจะมีสาร Ganoderans A,Bและ C ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยเข้าไปสร้างอินซูลินในเซลล์ตับอ่อน อีกทั้งยังมีฤทธิ์สำคัญในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างเห็นผล และยังสามารถต้านไวรัสได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถต้านมะเร็งในหลอดทดลองได้เช่นกัน
ต่อมาเป็นงานวิจัยที่ทำการทดลองกับหนู มีการแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะให้ปริมาณสารสกัดจากเห็ดหลินจือในปริมาณที่เท่ากัน แต่ต่อไปจะลดปริมาณสารสกัดเห็ดหลินจือลง้ในกลุ่มหนึ่ง ทำให้ผลวิจัยเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง